สวัสดีชาวโซเชี่ยลที่น่ารักทุกท่านค่ะ ในปัจจุบันมีสไตล์การสร้างบ้านที่หลากหลาย ซึ่งมีจุดสวยเด่นอย่างละแบบ แต่สไตล์การสร้างบ้านหนึ่งที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และเหมาะสำหรับภูมิอากาศที่ร้อนแบบเมืองไทย คือ การสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์น อย่างบ้านหลังนี้ที่ภายในประกอบด้วย 2 ห้องนอน ห้องโถงและห้องน้ำ ใช้งบประมาณในการสร้าง 500,000 บาท โดยโทนสีที่ใช้ภายนอกเป็นโทนเข้ม มีพิกัดอยู่ที่จังหวัดลพบุร
ลักษณะภายนอกเป็นบ้านชั้นเดียวที่ตัวบ้านยกพื้นสูงเล็กน้อย หลังคาบ้านออกแบบให้เป็นทรงเพิงแหงนลาดเอียงไปทางด้านหลังแล้วมุงด้วยเมทัลชีท ติดตั้งฝ้าเพดานชายคาไว้ ต่อมานำไม้ฝาสีน้ำตาลกรุผนังใต้ชายคา และผนังบ้านเป็นโทนสีเทาเข้มตัดฐานขอบล่างด้วยสีขาว ติดตั้งประตู หน้าต่าง ที่เป็นกระจกสำเร็จรูป มีวงกบเป็นสีขาวซึ่งตัดกับสีผนังบ้านได้อย่างลงตัว
ตัวบ้านมีรูปทรงที่สวยงาม หน้าบ้านต่อหลังคายื่นออกมาเพื่อเป็นระเบียง โดยที่ระดับของหลังคาต่ำกว่าตัวบ้าน ติดตั้งฝ้าเพดานเพื่อช่วยกันความร้อน และมีไฟเพดานประดับ หน้าระเบียงมีเหล็กระแนงสีดำตกแต่ง เข้ากับเสาที่เป็นสีส้ม มีโคมไฟประดับ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาล มีม้านั่งที่ก่อระหว่างเสาไว้สำหรับนั่งพักผ่อน และบันไดขึ้นบ้านมีขนาด 3 ขั้น ปูด้วยกระเบื้องสีเทา ส่วนพื้นรอบบ้านเทด้วยปูนซีเมนตืเป็นฟุตบาท ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
เมื่อเปิดปประตูเข้ามาในบ้านจะเห็นห้องโถง ที่ดีไซน์ผนังให้เป็นสีเทาอ่อนดูสบายตา ฝ้าเพดานเปนฝ้าหลุมสีขาว โดยตรงกลางประดับโคมสวยหรูไว้ เพิ่มความทันสมัยให้ตัวบ้านมากยิ่งขึ้น และรอบๆประดับด้วยไฟดาวน์ไลท์ทรงกลม หน้าต่างที่ผนังเป็นบานยาว สามารถช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
ส่วนห้องนอนมีประตูห้องเป็นบานไม้สีน้ำตาล ผนังเน้นตกแต่งด้วยสีเทาแต่มีบางมุมที่เป็นสีน้ำเงิน ตัดฐานขอบล่างด้วยสีดำ และด้านบนเลือกใช้ฝ้าเรียบสีขาว มีไฟที่เพดานประดับไว้อย่างสว่าง ส่วนหน้าต่างนั้นสามารถนำผ้าม่านมาติดตั้งไว้เพื่อช่วยบดบังแสงแดดที่อาจส่องเข้ามา เป็นการช่วยลดความร้อนภายในตัว
สุดท้ายเป็นห้องน้ำ ผนังห้องเป็นกระเบื้องสีเทาโทนเข้ม ทำความสะอาดง่าย มีเสน่ห์ภายในตัว จากนั้นติดตั้งชุดสุขภัณฑ์ตามจุดต่างๆสำหรับการใช้งาน
นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียในการสร้างบ้านที่สวยงาม ลงตัวและทันสมัย สำหรับใครที่มีโครงการจะสร้างบ้านแต่ยังไม่มีแบบบ้านเป็นของตน สามารถนำแบบบ้านหลังนี้ไปใช้เป็นแนวทาง ทั้งนี้งบประมาณที่ใช้ในการสร้างอาจเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับค่าวัสดุและค่าแรงช่างในเขตพื้นที่นั้นๆด้วยค่ะ
ขอบคุณที่มา: เฟซบุ๊ก จตุรงค์ พรเอนก
